วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

"นาคราชคืนชีพ" ตามคัมภีร์โรคนิทานคำฉันท์ ได้กล่าวถึงโรคสรรถภาพทางเพศหย่อน และการรักษา...

"นาคราชคืนชีพ"


คัมภีร์โรคนิทานคำฉันท์ ได้กล่าวถึงโรคสรรถภาพทางเพศหย่อนและการรักษาอย่างชัดเจน โดยแนะให้ภรรยาช่วยนวดให้ ใจความว่า

แพทย์ใดเมื่อได้เห็นโรคกล่อนเส้นซึ่งขัดขวาง

ให้นวดแต่เบื้องล่างเหนือตาตุ่มข้างท้องน่อง

แก้องคะชาตตายเพื่อกล่อนร้ายมิลำพอง

หนึ่งเส้นนำแข้งสองรวมทำนองกล่อนปัตะฆาฎ

เส้นหลังแล่นกระหลบไคลก้นกบดีทายาท

กระถบเสียวดังเยี่ยวราดแก้องคะชาตอันชาตาย

เจ็บหลังบ่อมิสบายเพศกล่อนร้ายแล่นลงฝัก

ฟกฟูดูน่าชังเจ็บเอวหลังเป็นพ้นนัก

บางที่โทษลงฝักหนักเป็นอุ้งดูบัดสี

บางทีเป็นไส้เลื่อนแปลแชเชือนโทษกาลี

เส้นกล่อนในคัมภีร์พึงขยายเส้นใต้ศูนย์

ใต้สะดือสักนิ้วกึ่งประจงคลึงตลอดจูน

เคียงเรียงเส้นศูนย์ชื่อนาคบาทบอกให้รู้

แม้นนาคนอนอ่อนระทดบ่อพึงผดซบเศียรอยู่

ดังทารกซึ่งมิรู้ชูไม้ค้อนเข้ายอนหาง

แสนพิโรธโลดทะลึ่งลำพองผึงพังพานกาง

ชูเศียรพองขนองหางบางเหี้ยมพิษกำแหงแรง

วิธีเส้นดังกล่าวมาแพทย์ปุจฉาอย่าเขลาแคลง

จะกล่าวนักมักหมิ่นแหนงจะเสื่อมแสวงไม่เรียนรู้

แม้นจะใคร่วิถานความพยายามเสาะถามครู

ร่ำเรียนเพียรถามดูจึงจะรู้สืบๆ ไป

ในคำกลอนได้กล่าวว่า การแก้องคชาตตายให้นวดตั้งแต่เหนือตาตุ่มข้างท้องน่อง หน้าแข้งไปตามสันแข้ง 2 แนว ถึงเข่า แล้วนวดแบบกร่อนปัตคาด (เส้นซึ่งอยู่ในแนวเดียวกันกับเส้นเลือดแถวบริเวณท้องน้อยและหน้าขา เมื่อกดเส้นนี้จะรู้สึกเต้นตุ๊บ) นวดหลังบริเวณก้นกบจนถึงเอวด้วยการคลึง หากนวดถูกเส้นนี้จะรู้สึกเสียวเหมือนจะปัสสาวะราด จึงใช้นวดแก้อาการปัสสาวะขัดหรือ ฉี่ไม่ออก แก้ขัดเอว ปวดหลัง ก็หายได้ อีกแบบหนึ่งให้นอนหงาย แล้วนวดเส้นใต้เส้นศูนย์ คือเส้นใต้สะดือประมาณ 1 นิ้ว คลึงลงไปทางขวาเล็กน้อยจนถึงหัวหน่าว เรียกเส้น นาคบาท

ถ้ามองตามหลักการแพทย์แผนไทย ปัญหาของสมรรถภาพทางเพศเสื่อมคือปัญหาของธาตุดิน ที่เรียกว่า เส้นเอ็นพิการ เส้นหลักคือเส้นประธานที่มาบริเวณ Prineum บริเวณทวารหนัก-เบา อวัยวะเพศ หรือเส้นสิกขินี (ชายเรียกคิชชะ) และสุขุมัง โบราณเรียกโรคที่เกิดความเสื่อมของเส้นว่า "กล่อนเส้น" เมื่อใช้นวดแล้วไม่ดีขึ้นมักต้อง ใช้ยาร่วมด้วย คือมีการรักษาแบบองค์รวม คือปรับธาตุ 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไปพร้อมกับการนวดรักษา และการใช้ยาสมุนไพร รวมถึงการออกกำลังกาย และการฟื้นฟูจิตใจหรือการทำสมาธิเพื่อรักษาที่ต้นเหตุ ที่มาจากสภาพจิตใจ

สำหรับสมุนไพร มีหลายตัวที่โบราณระบุว่ามีสรรพคุณบำรุงกำหนัด ส่วนมากเป็นสมุนไพรที่มีชื่อโลดโผน ชูกำลัง บำรุงกำลัง นิยมนำมาดองด้วยเหล้ารับประทาน เช่น มะเขือแจ้เครือ ราก รสเฝื่อนเปรี้ยวเล็กน้อย แก้กษัย แก้ปัสสาวะพิการ ใช้ทำยาแก้กามตายด้าน บำรุงความกำหนัด กำลังช้างสาร บำรุงธาตุ แก้อ่อนเพลีย บำรุงโลหิต บำรุงเส้นเอ็น เป็นยาอายุวัฒนะ กำลังเสือโคร่ง กำลังพญาเสือโคร่ง บำรุงกำลัง เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ บำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ

โด่ไม่รู้ล้ม รสกร่อยขื่น แก้ปัสสาวะพิการ บำรุงความกำหนัด มะเขือขื่น ใช้ราก มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ขับเสมหะ กระทุ้งพิษไข้ ใช้ปรุงกับยาอื่น แก้กามตายด้านและบำรุงความกำหนัด ม้าแม่กล่ำ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ทำให้นอนหลับ เจริญอาหาร บำรุงความกำหนัด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีท่ากายบริหารแบบฤๅษีดัดตนบางท่า ที่โบราณกล่าวว่าช่วยบำบัดได้ คือ ท่าแก้ลมในอก ท่าแก้ลมในลำลึงค์ ท่าแก้ลมลำลึงค์และอัณฑะ แก้ลมอัณฑพฤกษ์ ท่าแก้เส้นมหาสนุกระงับ เป็นต้น ใครสนใจท่าฤๅษีดัดตนแก้ไขมะเขือเผาก็ลองหาตำราฤๅษีดัดตนมาฝึก นอกจากแก้ปัญหาของโรคและอาการแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านการปรับสมดุลร่างกาย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี และช่วยฝึกสมาธิไปพร้อมๆ กันด้วย

ใครมีปัญหาสมรรถภาพทางเพศหย่อน อย่าอายที่จะรับการรักษากับแพทย์ ให้รีบปรึกษาและทำการรักษาอย่างจริงจัง และการนวดไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยท่านได้ ที่แนะนำให้ภรรยานวดสามี เพราะขนบธรรมเนียมไทยนั้นภรรยามีหน้าที่ปรนนิบัติพัดวีสามีอยู่แล้ว อย่างน้อยสัมผัสบำบัดจากภรรยา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความเข้าอกเข้าใจ พร้อมจะช่วยเหลือและช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของอีกฝ่ายได้ และยังเป็นการส่งเสริมการนวดช่วยเหลือกันเองในครอบครัวอีกด้วย











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น